10 May 2012

เป้าหมายของสหภาพยุโรปสีเขียวขึ้นอยู่กับตลาดคาร์บอนและ Acciona

สำนักข่าวรอยเตอร์ ณ กรุงบรัสเซลส์ สัมภาษณ์ผู้นำกลุ่มบริษัทด้านพลังงาน Acciona ของสเปนซึ่งให้ข้อคิดเห็นว่าสหภาพยุโรปอาจล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายสีเขียวหากไม่มีการแทรกแซงเพื่อผลักดันให้ราคาการซื้อขายคาร์บอนสูงขึ้นกว่าระดับปัจจุบันสามเท่า

Acciona เป็นหนึ่งในกลุ่มของธุรกิจประกอบด้วยรอยัลดัตช์เชลล์, ยูนิลีเวอร์ (บริษัทข้ามชาติสัญชาติอังกฤษและเนเธอร์แลนด์), ฟิลลิปส์, ดอยช์เทเลคอม (กลุ่มสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป) และ โวดาโฟน (บริษัทโทรคมนาคมใหญ่ของอังกฤษ)

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 2555 ที่ผ่านมาผู้นำกลุ่มบริษัทในเครือดังกล่าวเข้าเยี่ยมพบคณะกรรมาธิการยุโรป ประธานาธิบดีโฮเซมานูเอลบาร์โรโซ กรรมาธิการอาวุโสและผู้บริหารระดับสูงของสหภาพยุโรป

พวกเขาตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะบรรลุเป้าหมายที่ท้าทายความสามารถในอนาคตด้านพลังงานหมุนเวียนและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และสนับสนุนการดำเนินการของสหภาพยุโรปเพื่อเข้าแทรกแซงราคาคาร์บอนอย่างเร่งด่วน

"พวกเราต้องการที่จะมาแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นของพวกเราที่จะปฏิบัติการตามมาตรการเหล่านี้" คาร์เมน เบคเคอริล ประธานกรรมการด้านพลังงานของ Acciona กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์
เธอกล่าวเสริมเมื่อถูกถามถึงมุมมองของ Acciona เกี่ยวกับราคาคาร์บอนที่ควรจะเป็น "หลายปีที่ผ่านมาพวกเราไตร่ตรองราคาคาร์บอนที่ประมาณ 20 ยูโรต่อตัน(ประมาณ 26.30 เหรียญสหรัฐ) ซึ่งราคาดังกล่าวจะเป็นสัญญาณที่ดี"

ราคาการซื้อขายคาร์บอนของสหภาพยุโรปซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ปรับลดลงไปที่ระดับต่ำสุดหลังจากยุโรปเข้าสู่​​สภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจเมื่ออุปทานล้นตลาด ราคาการซื้อขายลดลงไปที่ราคาต่ำกว่า 6 ยูโรเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาและมีการตกลงซื้อขายที่ราคา 7 ยูโรต่อตันเมื่อรอบการซื้อขายในวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ค. 2555

นางคอนนี่ เฮดการ์ด (Connie Hedegaard) กรรมาธิการด้านสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่าเมื่อเดือนเมษายนคณะกรรมาธิการกำลังมองหาวิธีการที่จะปรับแก้ตารางเวลาในการประมูลซื้อคาร์บอน ซึ่งต้องจำกัดอุปทานและเพิ่มราคาให้สูงขึ้น

ทิศทางของนโยบาย

นอกเหนือจากการสนับสนุนคณะกรรมาธิการในการเข้าแทรกแซงตลาดคาร์บอนแล้ว นางเบคเคอริลยังกล่าวเสริมอีกว่าประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปจะต้องเห็นด้วยกับเป้าหมายนโยบายในปี 2030 เพื่อให้นักลงทุนมีเวลานานเพียงพอที่จะวางแผนก่อนที่กฎระเบียบที่มีอยู่ตามเป้าหมายปี 2020 จะหมดอายุลง

เป้าหมายของสหภาพยุโรปสามประการในรอบปี 2020 คือ (1) เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนร้อยละ 20 (2) เพิ่มส่วนแบ่งของพลังงานทดแทนในพลังงานผสมถึง 20 เปอร์เซ็นต์และ (3) ลดการใช้พลังงานลงร้อยละ 20 ของระดับที่คาดการณ์ไว้

เป้าหมายการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเพียงหนึ่งในสามเป้าหมายของสหภาพยุโรป ซึ่งสหภาพยุโรปประสบปัญหาในทางปฏิบัติที่จะดำเนินการให้บรรลุตามแนวทางที่วางไว้และติดกับอยู่ในขั้นตอนการอภิปรายเกี่ยวกับความยุ่งยากที่จะร่างกฎหมายเพื่อบังคับใช้มาตรการประหยัดพลังงาน

แนวความคิดที่จะเพิ่มมาตรการในการควบคุมการใช้พลังงานก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและภาคธุรกิจ บางภาคส่วนรวมทั้งภาคสาธารณูปโภคไม่พอใจกับการแทรกแซงของสหภาพยุโรปและมีข้อถกเถียงกันว่าการเสริมกฎระเบียบมากขึ้นอาจส่งผลให้การเจริญเติบโตของสหภาพยุโรปลดลงหรือไม่

แหล่งข่าวของอียูกล่าวว่าสเปนเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกที่คัดค้านมาตรการการประหยัดพลังงานของสหภาพยุโรป

นางเบคเคอริลสนับสนุนนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของยุโรป  ด้วยเห็นว่าเป็นวิธีการที่จะประกันความปลอดภัยของอุปทานและลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและก๊าซ อีกทั้งมาตรการด้านพลังงานมีความจำเป็นต่อความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า เป้าหมายพลังงานสีเขียวอื่น ๆ ของสหภาพยุโรปอาจมีความเสี่ยงหากนโยบายการซื้อขายคาร์บอนไม่เข้มแข็งพอ เนื่องด้วยตลาดซื้อขายคาร์บอนเป็นเครื่องมือพื้นฐานสำหรับการกระตุ้นการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ผู้นำของกลุ่มบริษัทพลังงาน Acciona และบริษัทอื่น ๆ ที่เข้าเยี่ยมพบกับบาร์โรโซในวันดังกล่าวทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้นำองค์กรความร่วมมือด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของสหภาพยุโรปของเจ้าชายแห่งเวลส์

Sandrine Dixson-Decleve ผู้อำนวยการขององค์กรกล่าวว่าการอภิปรายเมื่อวันพฤหัสบดีได้รวมตัวเลือกอื่น ๆ ที่จะช่วยประคับประคองตลาดคาร์บอน เช่น การกำหนดค่าตอบแทนสูงถึงหนึ่งพันล้านยูโรรวมทั้งการสอบเทียบใหม่  อีกทั้งยังมีการแลกเปลี่ยนมุมมองที่ดีเกี่ยวกับการเปลี่ยนวิธีการจากมาตรการรัดเข็มขัดเป็นการเจริญเติบโตสีเขียว

No comments:

Post a Comment