09 May 2012

นอร์เวย์เปิดอาคารใหม่ที่จะใช้ในการทดสอบการบวนการดักจับก๊าซคาร์บอนด้วยเทคโนโลยี CCS

เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พ.ค. 2555 นอร์เวย์เปิดอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งจะใช้เป็นอาคารในการพัฒนาเทคโนโลยีการกักเก็บก๊าซคาร์บอน (Carbon Capture and Storage, CCS), เทคโนโลยีที่ยังไม่ผ่านการรับรองในเชิงพาณิชย์เพื่อกลบฝังก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยจากโรงไฟฟ้าไว้ใต้ดินอย่างปลอดภัย
รัฐบาลนอร์เวย์ให้การสนับสนุนศูนย์ในการทดสอบเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนที่เกิดจากการเผาไหม้ของโรงงานสองแหล่งเป็นจำนวนเงินถึงหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีดังกล่าวมีความคุ้มค่าและปลอดภัย สามารถขยายไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้
นายกรัฐมนตรี Jens Stoltenberg กล่าวในพิธีเปิดศูนย์เทคโนโลยี Mongstad (TCM) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง เบอร์เกน ว่า "วันนี้เรากำลังเปิดห้องปฏิบัติการที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดของโลกเพื่อทดสอบเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอน ... มันเป็นโครงการที่สำคัญสำหรับนอร์เวย์และสำหรับโลก" ศูนย์ทดสอบนี้ติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่หลากหลายมีการทำงานที่ไม่ซ้ำแบบกัน สามารถทดสอบก๊าซไอเสียจากโรงงานสองแห่งในบริเวณใกล้เคียงคือ โรงไฟฟ้าแบบความร้อนร่วมขนาด 280 เมกะวัตต์และ โรงกลั่นน้ำมัน Mongstad ซึ่งมีกำลังผลิตถึง10-ล้านตันต่อปี ทั้งสองโรงงานผลิตก๊าซไอเสียที่มีปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แตกต่างกัน ประมาณร้อยละ 3.5 และร้อยละ 13 ตามลำดับ การปล่อยมลพิษโรงกลั่นน้ำมัน Mongstad มีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ใกล้เคียงกับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากโรงไฟฟ้าแบบถ่านหิน ซึ่งมีผลสรุปจากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ว่ามีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างยิ่ง CCS เป็นโอกาสเดียวของประเทศที่ก๊าซธรรมชาติใต้ทะเลกำลังจะหมดลง เป็นความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบอันเลวร้ายจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง โดยกลบฝังก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมา แม้ว่าค่าใช้จ่ายจะสูงมากก็ตาม ศูนย์เทคโนโลยีดังกล่าวประกอบด้วยโรงงานขนาดใหญ่สองโรงงานที่มีความจุในการดักจับคาร์บอนเพื่อประมวลผลรวมกันถึง 100,000 ตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี นับเป็นโรงงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพื้นที่ขณะนี้ ณ ปัจจุบัน มีเพียงไม่กี่ประเทศที่ตกลงใจที่จะลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอน ประเทศที่มีโครงการดังกล่าวแล้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, อังกฤษและจีน
นาย Guenther Oettinger กรรมาธิการด้านพลังงานของสหภาพยุโรป ปรบมือให้แก่ความพยายามของนอร์เวย์ที่มีขึ้นในช่วงเวลาที่โครงการสาธิตด้านCCS ของยุโรปจนตรอกเนื่องจากการขาดการลงทุน เขากล่าวว่า “นับเป็นก้าวสำคัญของยุโรปในการพัฒนาเทคโนโลยี CCS ซึ่งจะช่วยให้เกิดโมเมนตัมใหม่ในการอภิปรายเพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาใช้เทคโนโลยี CCS ในยุโรป ก๊าซธรรมชาติจะมีอนาคตระยะยาวในยุโรปหากซีซีเอส สามารถนำมาใช้ได้จริง” ตลาดคาร์บอนสหภาพยุโรปถูกนำมาเสนอใช้เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการกำหนดราคาในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และค่าตอบแทนจากการขายของภาคเอกชนเพื่อใช้เป็นปัจจัยต้นทุนประกอบการตัดสินใจลงทุนในระยะยาวของเอกชน อย่างไรก็ตามราคาที่อนุญาตให้มีการซื้อขายคาร์บอนต่ำกว่า 7 ยูโร ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดในการรับซื้อคาร์บอนจากบริษัทที่จะลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีประชากรเพียง 4.9 ล้านคน แต่เป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับแปดของโลกและเป็นประเทศผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปตะวันตกในขณะนี้

No comments:

Post a Comment