14 June 2012

E.ON ฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยจำนวน 8 พันล้านยูโรในความเสียหายที่เกิดจากการปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์




สำนักข่าวรอยเตอร์ ณ นครแฟรงค์เฟิร์ตรายงานว่า - เอจี E.ON บริษัทสาธารณูปโภคที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยจากรัฐ จำนวน 8 พันล้านยูโร (ประมาณ 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ) เนื่องจากการตัดสินใจปิดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ของรัฐบาลเยอรมันเมื่อปีที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ Frankfurter Allgemeine Zeitung รายงานเมื่อวันพุธที่ 13 มิถุนายนว่าบริษัทสาธารณูปโภคของเยอรมนีรวมทั้ง บริษัท E.ON ฟ้องร้องเรียกเงินชดเชยรวมกัน 15 พันล้านยูโรต่อความเสียหายอันเนื่องมาจากการตัดสินใจของรัฐบาล

ศาลรัฐธรรมนูญของเยอรมันรับเรื่องไว้พิจารณาและมีแผนที่จะไต่สวนมุมมองจากรัฐบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ เกี่ยวกับการฟ้องร้องดังกล่าวว่ามีมูลเหตุที่ฟังขึ้นหรือไม่ในสัปดาห์นี้


การตัดสินใจของรัฐบาลเยอรมันจุดประกายจากภัยพิบัติของเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เมืองฟูกูชิมาประเทศญี่ปุ่น เยอรมนีปิดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ลงแปดเครื่องเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมาและเร่งกำหนดเวลาปิดเครื่องปฏิกรณ์ที่เหลือภายในปี 2022

โฆษกของ E.ON กล่าวว่า บริษัทคิดว่าจะชนะคดีและได้รับเงินชดเชยตามที่เรียกร้อง ในขณะที่โฆษกหญิงของ RWE บริษัทคู่แข่งปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในจำนวนเงินที่เรียกร้องในขณะที่คดีกำลังอยู่ในการพิจารณาของศาล ก่อนหน้านั้น RWE เคยกล่าวว่าผลกระทบจากการตัดสินใจที่จะปิดโรงไฟฟ้​​านิวเคลียร์ทำให้บริษัทของตนสูญกำไรสูงถึง 1000 ล้านยูโร


บริษัท E.ON เน้นย้ำเสมอว่าการฟ้องร้องดังกล่าวมิได้มีขึ้นเพื่อต่อต้านนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นด้านพลังงานทดแทนมากกว่าพลังงานนิวเคลียร์และเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ด้วยเชื่อว่าทรัพย์สินของตนถูกละเมิด

นอกจากนี้ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้​​านิวเคลียร์ยังโต้แย้งต่อแผนการของรัฐบาลที่จะยังคงเรียกเก็บภาษีน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่สำหรับปริมาณการผลิตที่พวกเขาได้คาดการณ์ไว้แต่บัดนี้สูญหายไป

พวกเขาสูญเสียเช่นกันเพราะจะต้องซื้อพลังงานบางส่วนจากตลาดเพื่อตอบสนองข้อผูกมัดที่พวกเขาไม่สามารถตอบสนองได้ทันทีที่โรงไฟฟ้​​านิวเคลียร์ถูกปิดลงและจะต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้​​านิวเคลียร์ของเยอรมนีอีกสองบริษัทได้แก่ บริษัท Vattenfall ยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทสาธารณูปโภคของสวีเดนในเยอรมนีและบรัท EnBW กล่าวว่าพวกเขายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะทำเรื่องฟ้องร้องหรือไม่




"เรากำลังเตรียมการตัดสินใจ แต่ผลการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร ยังไม่ทราบได้ กำหนดยื่นเรื่องฟ้องร้องจะมีขึ้นภายในปลายเดือนสิงหาคม" โฆษกของบริษัท EnBW ในรัฐ Baden Wuerttemberg กล่าว

โฆษกหญิงของ Vattenfall ยังกล่าวว่าการตัดสินใจจะต้องดำเนินการภายในกรอบเวลาที่เหมาะสม
ตามข่าวบริษัท E.ON และ RWE มีผลกำไรจากส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 2.2 และ 1.7 ตามลำดับ  

นักวิจัยค้นพบยีนที่อยู่เบื้องหลังเม็ดสีของส้มสีเลือด



 
นักวิจัยในประเทศจีน อิตาลีและอังกฤษ ค้นพบยีนที่ทำให้เกิดเม็ดสีของส้มสีเลือดและการควบคุมการทำงานของยีน ผลการวิจัยตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร The Plant Cell การค้นพบครั้งนี้มีส่วนช่วยในการพัฒนาด้านสุขภาพ การส่งเสริมส้มสีเลือด และนำไปสู่การแก้ปัญหาใหม่สำหรับคนไข้ที่ได้รับความทุกข์ยากจากโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคอ้วนและโรคเบาหวาน 

การศึกษานี้ได้รับทุนสนับสนุนจากกรอบแผนงานฉบับที่ 6 ของอียูภายใต้หัวข้อคุณภาพอาหารและความปลอดภัย และทุนสนับสนุนจากกรอบแผนงานฉบับที่ 7 ของอียูภายใต้หัวข้อ อาหาร การเกษตร การประมง และเทคโนโลยีชีวภาพ

การวิจัยนำโดยนักวิจัยจากศูนย์จอห์น อินเนส ในประเทศอังกฤษ รายงานว่าปกติส้มสีเลือดต้องการอากาศเย็นเป็นตัวเร่งเพื่อพัฒนาเม็ดสีแดง ดังนั้นพื้นที่แถวเทือกเขาเอทน่าในประเทศอิตาลีจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกส้มชนิดนี้ ซึ่งในเวลากลางวันมีแสงแดดและเวลากลางคืนมีอากาศเย็น กลางวันที่มีแดด และอบอุ่นในเวลากลางคืนก็เช่นเดียวกันเป็นสภาวะที่ดีที่สุดในการผลิตส้มสีเลือดที่พบในเขตพื้นที่ของอิตาลี ในการศึกษานี้นักวิจัยตั้งชื่อยีนที่มีส่วนสำคัญในการเกิดเม็ดสีของส้มสีเลือดว่า รูบี้ (Ruby) ซึ่งมีสีแดงทับทิม

ศาสตราจารย์ แคทธี มาร์ติน จากศูนย์จอห์น อินเนส กล่าวว่า ส้มสีเลือดมีเม็ดสีที่เกิดโดยธรรมชาติซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับการพัฒนาสุขภาพของหลอดเลือดหัวใจ การควบคุมโรคเบาหวาน และการลดโรคอ้วน ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของส้มทำให้เข้าใจเรื่องพันธุวิศวกรรมเพื่อปลูกส้มสีเลือดในสภาพอากาศที่อบอุ่นมากขึ้น

เม็ดสีที่ทำให้ผลไม้เป็นสีแดง ม่วงและฟ้าคือ สารแอนโธไซยานินและฟราวโวนอยส์ จากการศึกษาก่อนหน้านั้นของงานวิจัยเกี่ยวกับอาหารที่มีสารแอนโธไซยานินสูง ระบุว่าการดื่มน้ำส้มจากส้มสีเลือดจะลดภาวการณ์ที่เซลล์ถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระเนื่องจากความเครียด (Oxidative stress) ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน และป้องกันการทำลายดีเอ็นเอจากสภาวะออกซิเดชันและลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ
           
นักวิจัยแยกยีนรูบี้ออกจากส้มสีเลือดและส้มสีทอง พบว่ายีนเม็ดสีนี้ถูกควบคุมโดยยีนที่สามารถย้ายจากโครโมโซมหนึ่งไปอีกโครโมโซมหนึ่งได้ (Mobile genetic elements) ซึ่งถูกกระตุ้นโดยความเครียดจากความเย็น
 
ส้มสีเลือดเป็นอนุพันธุ์ของส้มหวานที่ปลูกกันทั่วโลก การศึกษาล่าสุดยังยืนยันว่าส้มหวานเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างส้มโอกับส้มแมนดาริน


 

ที่มา: cordis news 10 เมษายน 2555

โรงงานพลังงานแสงอาทิตย์แรกของโลกที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้แม้ในเวลากลางคืน




การวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ที่ชัดเจนที่สุดคือ มันทำงานได้ไม่ดีหลังเวลาพระอาทิตย์ตกดิน โรงไฟฟ้า heliostatic Gemasolar ใหม่ไม่มีปัญหาดังกล่าวเนื่องด้วยมีเกลือหลอมเหลวที่ช่วยให้มันสามารถเดินเครื่องได้นานถึง 15 ชั่​​วโมงในที่มืด

ณ โรงไฟฟ้า Gemasolar ซึ่งตั้งอยู่นอกเมืองเซบียา, ประเทศสเปน มีกระจกมากกว่า 2,600 แผ่นจัดเรียงตัวเพื่อรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ไปยังถังเกลือไนเตรทหลอมเหลวซึ่งอยู่ตรงใจกลาง รังสีที่มารวมกันจะส่งพลังงานความร้อนจำนวนมหาศาลไปยังเกลือหลอมเหลวจนมีอุณหภูมิสูงกว่า 900 องศาเซลเซียส ไปต้มน้ำที่อยู่รอบถังให้เดือดจนเป็นไอน้ำไปปั่นกังหันไอน้ำ ความร้อนที่เหลือใช้ในระหว่างวันจะถูกเก็บไว้ภายในเกลือเหลว ซึ่งทำหน้าที่เสมือนแบตเตอรี่ร้อนขนาดยักษ์สำหรับปั่นกังหันในเวลากลางคืนและในช่วงมืดครึ้มของวันได้นานถึง 15 ชั่​​วโมงและในเวลาที่ไม่มีแสงแดด

เมืองเซบียา ประเทศสเปนเป็นหนึ่งในพื้นที่ของยุโรปที่มีแสงแดดสดใสมากที่สุดซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยมากนัก



โรงไฟฟ้า Gemasolar มูลค่า 410 ล้านเหรียญสหรัฐ(หรือเท่ากับ 230 ล้านยูโร) เริ่มเดินเครื่องเมื่อปี 2011 มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 20 เมกะวัตต์ ระยะเริ่มต้นอาจยังไม่สามารถเดินเครื่องได้เต็มกำลัง แต่คาดการณ์ว่าจะสามารถเดินเครื่องได้ถึงร้อยละ 70 ในปี 2012 เป็นสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาโรงไฟฟ้าชนิดเดียวกันในยุโรป สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 110 ล้านหน่วย / ปี เพียงพอสำหรับป้อนพลังงานให้แก่ครัวเรือนได้ถึง 25,000 ครัวเรือน สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ในชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 30,000 ตันต่อปี


การจัดเก็บพลังงานความร้อนรวมกับสภาพแสงแดดช่วยประกันว่าโรงไฟฟ้า Gemasolar จะสามารถทำงานได้อย่างน้อย 6,500 ชั่วโมงต่อปี นานกว่าแหล่งพลังงานทดแทนอื่น ๆ มากถึงสามเท่า

13 June 2012

สายการบินเรียกร้องให้สหภาพยุโรปคลี่คลายความตรึงเครียดจากมาตรการซื้อขายคาร์บอนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


รายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ กรุงปักกิ่ง   – เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน 2012 สายการบินทั่วโลกนำโดยจีน, สหรัฐอเมริกาและอินเดียซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่คัดค้านแผนการของสหภาพยุโรปที่จะบังคับผู้ให้บริการเข้าร่วมโครงการซื้อขายคาร์บอน เรียกร้องให้สหภาพยุโรปคลี่คลายความตรึงเครียดต่อนโยบายปล่อยก๊าซเรือนกระจกระดับนานาชาติ


Europe has angered trading partners with its plan to make airlines cut pollution by levying a fee based on the amount of carbon emissions calculated for whole flights, not just the portion over Europe - a measure its critics regard as interference with their national airspace.ยุโรปก่อความขุ่นเคืองให้แก่ประเทศคู่ค้าจากแผนการที่จะให้สายการบินลดมลพิษตามเกณฑ์ค่าธรรมเนียมตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนซึ่งคำนวณตลอดเที่ยวบินมิได้เฉพาะในส่วนที่บินผ่านน่านฟ้าของยุโรปเท่านั้น - มาตรการดังกล่าวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการใช้กฎหมายแทรกแซงอธิปไตยในเขตน่านฟ้านานาชาติของพวกเขา 

The head of the International Air Transport Association (IATA) said all parties shared the view that a global agreement was needed to head off the threat of a trade war over the EU's Emissions Trading Scheme (ETS).
หัวหน้าสมาคมขนส่งทางอากาศนานาชาติ (IATA) กล่าวว่าทุกฝ่ายมีมุมมองร่วมกันที่จะหยุดยั้งข้อตกลงระดับโลกที่เป็นภัยคุกคามต่อสงครามการค้ามากกว่าโครงการซื้อขายคาร์บอนของสหภาพยุโรป (EU ETS) 


"Europe seems more committed to implementing its ETS unilaterally than to sincerely negotiating a multilateral agreement," IATA director general Tony Tyler told a gathering of 240 airlines in the Chinese capital. "ยุโรปดูเหมือนว่ามุ่งมั่นที่จะดำเนินการด้าน ETS เพียงฝ่ายเดียว มากกว่าที่จะแสดงความจริงใจในการเจรจาข้อตกลงแบบพหุภาคี" อธิบดีโทนี่ไทเลอร์แห่ง IATA กล่าวต่อผู้ชุมนุมจากสายการบิน 240 สายการบินในเมืองหลวงของจีน "For Europe's international counterparts it's like being asked to negotiate with a gun to their head," he added in an opening speech to the group's annual meeting. "ในขณะที่ประเทศคู่ค้าถูกบังคับให้เจรจาโดยมีปืนจ่อที่ศีรษะ" เขากล่าวในสุนทรพจน์เปิดการประชุมประจำปีของกลุ่ม

"Sustainability should unite the world with common purpose, not divide it with affronts to sovereignty that risk a trade war, a war that nobody wants and from which no winner can emerge." "การพัฒนาอย่างยั่งยืนควรรวมโลกเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยวัตถุประสงค์ร่วมกัน ไม่แบ่งแยกและก่อให้เกิดความบาดหมางในอำนาจอธิปไตยที่เสี่ยงต่อการเกิดสงครามทางการค้า สงครามที่ไม่มีใครต้องการและไม่มีใครเป็นผู้ชนะ".

China and India have ordered airlines not to cooperate with the scheme, raising the prospect of retaliation by the EU. จีนและอินเดียได้สั่งสายการบินของตนไม่ให้ความร่วมมือกับโครงการดังกล่าวเพื่อเพิ่มโอกาสในการตอบโต้กับสหภาพยุโรป



"The onus is now on Europe to seize the moment, take a credible action to defuse the situation and get on with finding the global solution that everybody is hoping for," Tyler said. "เป็นภาระความรับผิดชอบของยุโรปที่จะต้องเลือกวิธีดำเนินการที่น่าเชื่อถือเพื่อคลี่คลายความตรึงเครียดของสถานการณ์และหาวิธีการแก้ปัญหาระดับโลกตามที่ทุกคนคาดหวัง" ไทเลอร์กล่าว

The EU says its plans are necessary as a way to meet international targets to reduce pollution, and that it was forced to act alone as a result of there having been little progress made towards reaching a global deal. ในขณะที่สหภาพยุโรปกล่าวว่าแผนการดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการลดมลพิษของนานาชาติและเป็นเพียงมาตรการเดียวที่บังคับใช้เนื่องด้วยมีความคืบหน้าน้อยมากในการดำเนินการตามข้อตกลงระดับโลก

The airline industry fears being caught up in a trade war which would further dent profits that IATA says could be erased by a worsening of the European debt crisis. ธุรกิจสายการบินเกรงว่าจะถูกจับเป็นตัวประกันในสงครามการค้าซึ่งมีผลกำไรน้อยมากและไม่อาจถูกลบได้จากการถดถอยของวิกฤตหนี้ยุโรป

08 June 2012

ผลการศึกษาของยุโรปเกี่ยวกับอุบัติเหตุร้ายแรงทางนิวเคลียร์





การศึกษาวิจัยนำโดย โจ ลีลิเวอล์ด ผู้อำนวยการสถาบันมัคซ์พลังค์ด้านเคมี ในไมน์ หลังเกิดเหตุที่ฟูกูชิมา มีคำถามว่าโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีกมีหรือไม่   และเราสามารถคำนวณฝุ่นผงกัมมันตรังสีโดยใช้แบบจำลองบรรยากาศได้อย่างแท้จริงหรือไม่” 


ผลจากการศึกษาพบว่าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หนึ่งแห่งจากจำนวนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้งหมดทั่วโลกจะมีโอกาสเกิดการหลอมละลายขึ้นได้ครั้งหนึ่งในช่วงเวลา 10-20 ปี ปัจจุบันมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่กำลังดำเนินงานอยู่ทั้งหมด 44 แห่งและมากกว่า 60 แห่งอยู่ในแผนการดำเนินงาน



 นักวิจัยใช้วิธีการคำนวณอย่างง่ายๆเพื่อคำนวณโอกาสในการหลอมละลายของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ โดยนำเอาจำนวนชั่วโมงการปฏิบัติงานของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วโลกตั้งแต่เริ่มการปฏิบัติงานจนถึงปัจจุบันมาหารด้วยจำนวนเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่เกิดการหลอมละลายจริง   เมื่อนำเอาจำนวนชั่วโมงการปฏิบัติงานเท่ากับ 14,500 ปี และจำนวนเตาปฏิกรณ์ที่หลอมละลายเท่ากับ 4 หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นที่เมืองเชอร์โนบิล และอีกสามครั้งเกิดขึ้นที่เมืองฟูกูชิมา









ตามมาตรระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์และรังสี (International Nuclear and Radiological Event Scale, INES) กำหนดว่าระยะการทำงานทุกๆ 3,625 ปี จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางนิวเคลียร์ขึ้นหนึ่งครั้งตามการจัดลำดับความรุนแรงของเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์

แม้ว่าจะทบเวลาเป็น 5,000 ปี เพื่อใช้ในการคำนวณ ความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยร้ายแรงอันเนื่องมาจากการหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ของเตาปฏิกรณ์ที่ไม่มีอาคารคลุมก็ยังคงสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้โดยคณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1990 ว่ามีโอกาสเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงทางนิวเคลียร์ขึ้นในทุกๆ 1 ล้านปี ถึง 200 เท่า

           
อย่างไรก็ตามนักวิจัยจากไมน์ไม่ได้แยกแยะอายุการใช้งานและชนิดของเตาปฏิกรณ์และไม่ได้ระบุว่าเตาปฏิกรณ์เหล่านั้นตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่น พื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหว ที่สำคัญไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุของเตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์ในญึ่ปุ่นมาก่อน 



การนำอุบัติเหตุ ณ เมืองฟูกูชิมามาใช้ในการคำนวณอาจเป็นจุดอ่อนของการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ ทำให้ผลลัพธ์จากการคำนวณในลักษณะดังกล่าวรุนแรงเกินความเป็นจริงและส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของผลการศึกษาดังกล่าวลดลง อีกทั้งยังมีข้อเท็จจริงที่มิได้กล่าวไว้ในที่นี้อีกคือ หลังจากอุบัติเหตุที่เมืองเชอร์โนบิลแล้วไม่มีการสร้างหรือใช้งานเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ไม่มีอาคารคลุมอีกเลย