29 July 2011

ทางหนีของรัฐบาลสหราชอาณาจักรจากภาษีธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์


ภาพกังหันลม ที่ Loftsome Bridge Treatment Works, หน้าสถานีโรงไฟฟ้า Drax  ใกล้เมือง Selby ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรมีแผนจะหาช่องทางหลบหนีจากแผนการสนับสนุนโรงไฟฟ้​​าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งจะทำให้ผู้ผลิตได้รับประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลที่จะลดอัตราภาษีที่สูงสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ลง
กรมธุรกิจพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ 27 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมาถึงเจตนารมณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเกี่ยวกับโรงไฟฟ้​​าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งขอขยายเวลาการก่อสร้างออกไปหลังวันที่ 31 ตุลาคม 2011 เพื่อป้องกันไม่ให้นักพัฒนาได้ผลประโยชน์จากอัตราภาษีที่สูงขึ้นอย่างมากสำหรับโครงการระดับเชิงพาณิชย์
นโยบายเริ่มต้นที่จัดทำขึ้นทำให้นักพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ได้รับผลประโยชน์จากแผนการชดเชยจากรัฐบาลในภาษีที่กำหนดขขึ้น (feed-in tariffs, FITs) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการผลิตพลังงานทดแทนให้แก่ผู้พัฒนา ทั้งนี้เพื่อประกันความเชื่อมั่นของราคาในสัญญาระยะยาวและเพื่อดึงดูดให้นักลงทุนสนใจมาลงทุนด้านพลังงานทดแทนมากยิ่งขึ้น ก่อนการประกาศผลการทบทวนอย่างรวดเร็วของรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายนที่จะขยายเวลาในการรับความคิดเห็นเกี่ยวกับการขยายเวลาโครงการไปอีก 12 เดือนนับจากวันเริ่มต้นของการพิจารณา ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 สิงหาคม 2011 
ตอนหนึ่งในเอกสารการให้คำปรึกษาของแผนกกล่าวไว้ว่า  "ข้อกำหนดเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพในการสร้างช่องทางหนี(สำหรับรัฐบาล) หากยังคงมีอยู่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ได้จากการเรียกเก็บจากธุรกิจดังกล่าว ความสมบูรณ์ของโครงการและอาจทำลายวัตถุประสงค์ของการทบทวนอย่างรวดเร็วอีกด้วย"
ขณะนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักรวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเพื่อทำให้อัตราภาษีของโครงการที่ขอขยายเวลาแยกจากโครงการที่เริ่มดำเนินการซึ่งการได้รับผลประโยชน์จะแตกต่างจากภาษีการก่อสร้างเดิม
          ในตอนหนึ่งโฆษกรัฐบาลสหราชอาณาจักรกล่าวว่า "นักพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานเซลส์แสงอาทิตย์จำนวนมากกำลังใคร่ครวญเกี่ยวกับข้อกำหนดการขยาย FITs เพื่อคงไว้ซึ่งอัตราภาษีเดิมสำหรับโครงการใหม่ที่จะเริ่มขึ้นภายหลังวันที่ 1 สิงหาคม"
ระยะเวลาการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงคำสั่งจะเปิดให้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2011 โดยรัฐบาลสหราชอาณาจักรมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการปรับแก้กฎระเบียบให้แล้วเสร็จในเดือนกันยายนเพื่อให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
          สหราชอาณาจักรตัดแผนการสนับสนุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ลงระหว่างร้อยละ 40-70 ในเดือนมิถุนายน เป็นการทบทวนที่รวดเร็วซึ่งเดิมคาดว่าจะดำเนินการพิจารณาทบทวนโครงการในเดือนเมษายน 2012 รัฐบาลแสดงความกังวลว่าโครงการในเชิงพาณิชย์ได้ใช้เงินกองทุนไปอย่างมหาศาล ซึ่งวัตถุประสงค์เดิมมีไว้เพื่อโครงการสำหรับครอบครัวและชุมชน
อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ของสหราชอาณาจักรต่างตื่นตระหนกต่อการตัดสินใจตัดโปรแกรมการสนับสนุนก่อนเวลาอันควร ซึ่งกล่าวกันว่าอาจส่งผลให้การพัฒนาอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์พิกลพิการตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก






รัฐบาลไทยหากจะลงทุนพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้เป็นพลังงานทดแทนในอนาคตควรศึกษาและติดตามความเคลื่อนไหวของแผนและนโยบายของประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด นำข้อมูลประกอบต่างๆมาพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ เพราะหากลงทุนในธุรกิจพลังงานประเภทนี้รัฐบาลจะต้องเตรียมเงินลงทุนจำนวนมหาศาลไว้รองรับ และหากงบประมาณไม่เพียงพออาจส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการในระยะยาว ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้รอบด้านว่าประเทศไทยพร้อมหรือไม่ที่จะพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ในขณะนี้...หรือเมือใดจึงจะเหมาะสม

..........................................................................................................................................................................................................................

No comments:

Post a Comment